ดัชนีผู้บริโภค-ธุรกิจดีดขึ้นชัด คนเริ่มเชื่อมั่นเศรษฐกิจดีขึ้น หวังเลือกตั้งเงินสะพัด5หมื่นล้าน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ธ.ค. 65 ว่า ดัชนีทุกรายการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และอยู่ระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือนนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 63 โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของผู้บริโภค อยู่ที่ 49.7 จากระดับ 47.9 ความเชื่อมั่นในปัจจุบัน อยู่ที่ 34.6 จาก 32.6 และดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคต 56.9 จาก 55.2 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่า เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นชัดเจน ดูแลสถานการณ์โควิดในประเทศดีขึ้น ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงอย่างมาก ทำให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายเรื่องค่าครองชีพ ขณะเดียวกันผู้บริโภคยังคงกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต รวมถึงกังวลต่อสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยืดเยื้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลก เป็นปัจจัยเพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย การส่งออกไม่ได้สูงนักคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น

ขณะเดียวกันได้สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (ภาคธุรกิจ) เดือน ธ.ค. 65 พบว่า ดีต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยดัชนีฯ โดยรวม อยู่ที่ 45.5 เพิ่มขึ้น 43.9 ดัชนีฯ ในปัจจุบัน 45.2 เพิ่มขึ้น 43.5 และดัชนีฯ ในอนาคต 45.7 เพิ่มขึ้นจาก 44.4 เนื่องจากมุมมองต่อเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวจากภาคท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น มีผลต่อการจ้างงานและรายได้ที่เพิ่มขึ้นและกระจายทั่วถึงมากขึ้น การผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด ทำให้เดินทางมากขึ้นตาม ราคาน้ำมันโลกเริ่มทรงตัวระดับ และราคาพืชผลเกษตรยังดี แต่ยังกังลเรื่องค่าไฟและค่าแรง บาทแข็งเร็วเกินไป ดอกเบี้ยปรับเร็ว ภัยธรรมชาติมีผลต่อผลผลิตอยากให้รัฐช่วยเงินอุดหนุนช่วยเหลือโดยเร็วคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด

“ผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคประชาชนและภาคธุรกิจ สะท้อนว่าความเชื่อมั่นเป็นขาขึ้น และมีโอกาสกลับไปแตะระดับปกติ คือความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ระดับ 100 และความเชื่อมั่นธุรกิจอยู่ระดับ 50 หลังไตรมาส 3 ปีนี้ ปัจจัยหนุนหลายเรื่อง เช่น คาดเลือกตั้งช่วงไตรมาส 2 มีเงินสะพัด 4-5 หมื่นล้านบาท จากนั้นจัดตั้งรัฐบาลใหม่และออกนโยบายกระตุกเศรษฐกิจ บวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว การส่งออกยังบวกได้ 1-2% และภาคท่องเที่ยวไทยกลับมาเป็นไฮซีซั่นอีกครั้ง คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิน 25 ล้านคน อีกทั้งการออกมาทำกิจกรรมมากขึ้นตามเทศกาลต่างๆ ก็จะส่งผลต่อจีดีพีครึ่งปีหลังโตเกิน 3.7-3.8% จากครึ่งปีแรก 3.4-3.5% ส่งผลให้จีดีพีไทยทั้งปีโตเกิน 3.6% และมีโอกาสใกล้ถึง 4%”

สำหรับข้อเสนอแนะภาคธุรกิจ ดูแลต้นทุนการประกอบธุรกิจที่มีแนวโน้มสูงขึ้นหามาตรการที่จะช่วยดึงดูดนักลงทุนชาวต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย หามาตรการช่วยผู้ประกอบการ ในเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของธุรกิจ และดูแลค่าเงินบาทให้เอื้อต่อธุรกิจส่งออกนำเข้าอย่างเหมาะสม กระตุ้นการเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศฟื้นตัว เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ของสถานการณ์น้ำท่วมขัง และน้ำป่าไหลหลากในหลายจังหวัด

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ธ.ค. 65 ว่า ดัชนีทุกรายการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และอยู่ระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือนนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 63 โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของผู้บริโภค อยู่ที่ 49.7 จากระดับ 47.9 ความเชื่อมั่นในปัจจุบัน อยู่ที่ 34.6 จาก 32.6 และดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคต 56.9 จาก 55.2 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่า เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นชัดเจน ดูแลสถานการณ์โควิดในประเทศดีขึ้น ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงอย่างมาก ทำให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายเรื่องค่าครองชีพ ขณะเดียวกันผู้บริโภคยังคงกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต รวมถึงกังวลต่อสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยืดเยื้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลก เป็นปัจจัยเพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย การส่งออกไม่ได้สูงนักคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น ขณะเดียวกันได้สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (ภาคธุรกิจ) เดือน ธ.ค. 65 พบว่า ดีต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยดัชนีฯ โดยรวม อยู่ที่ 45.5 เพิ่มขึ้น 43.9 ดัชนีฯ ในปัจจุบัน 45.2 เพิ่มขึ้น 43.5 และดัชนีฯ ในอนาคต 45.7 เพิ่มขึ้นจาก 44.4 เนื่องจากมุมมองต่อเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวจากภาคท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น มีผลต่อการจ้างงานและรายได้ที่เพิ่มขึ้นและกระจายทั่วถึงมากขึ้น การผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด ทำให้เดินทางมากขึ้นตาม ราคาน้ำมันโลกเริ่มทรงตัวระดับ และราคาพืชผลเกษตรยังดี แต่ยังกังลเรื่องค่าไฟและค่าแรง บาทแข็งเร็วเกินไป ดอกเบี้ยปรับเร็ว ภัยธรรมชาติมีผลต่อผลผลิตอยากให้รัฐช่วยเงินอุดหนุนช่วยเหลือโดยเร็วคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด “ผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคประชาชนและภาคธุรกิจ สะท้อนว่าความเชื่อมั่นเป็นขาขึ้น และมีโอกาสกลับไปแตะระดับปกติ คือความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ระดับ 100 และความเชื่อมั่นธุรกิจอยู่ระดับ 50 หลังไตรมาส 3 ปีนี้ ปัจจัยหนุนหลายเรื่อง เช่น…